
หลักสูตร : การเป็นวิทยากรปั้นจั่น เสริมความรู้สำหรับวิทยากรปั้นจั่น ระดับกลาง
หลักสูตร “การฝึกอบรมเทคนิคการเป็นวิทยากรปั้นจั่น หลักสูตรเสริมความรู้สำหรับวิทยากรปั้นจั่น ระดับกลาง” ตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอบรมหลักสูตรการปฏิบัติหน้าที่ผู้บังคับปั้นจั่นผู้ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ หรือผู้ควบคุมการใช้ปั้นจั่น และการอบรมทบทวนการทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่น พ.ศ.2554
กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. 2552 กำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ หรือผู้ควบคุมการใช้ปั้นจั่น ผ่านการอบรมหลักสูตรการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว และต้องจัดให้มีการอบรมหรือทบทวนการทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่นตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอบรมหลักสูตรการปฏิบัติหน้าที่ผู้บังคับปั้นจั่นผู้ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ หรือผู้ควบคุมการใช้ปั้นจั่น และการอบรมทบทวนการทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่น พ.ศ.2554 และในการจัดอบรมหลักสูตรดังกล่าววิทยากรจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
ข้อ 17 วิทยากรผู้ทำการฝึกอบรมต้องมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
- หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรเสริมความรู้สำหรับวิทยากร ในระดับกลาง เหมาะสำหรับผู้เข้าอบรมในระดับวิทยากรปั้นจั่น และผู้ที่ทำงานด้านงานปั้นจั่น
- ผู้เข้าอบรมควรเป็นวิทยากรปั้นจั่นมาไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือมีประสบการณ์การบรรยายด้านปั้นจั่นไม่น้อยกว่า 30 วันบรรยายต่อปี หรือเป็นผู้ที่ทำงานด้านงานปั้นจั่นมาไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยทางหน่วยฝึกขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาอนุมัติผู้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดเข้ารับการอบรมตามที่พิจารณาเห็นสมควร
- รายละเอียดในหัวข้อการอบรม อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
- วิทยากรอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
- การบรรยายเป็นแบบห้องเรียน โดยสามารถสอบถามในขณะบรรยายหรือหลังบรรยายภายในเวลาที่กำหนด
- วันสุดท้าย (Module 5) ของการอบรมเป็นการอบรมนอกสถานที่ เพื่อดูงาน Workshop การจัดทำห่วงและการอัดปลอกลวดสลิงและการทดสอบแรงดึงลวดสลิง (Wire Rope Breaking Test) โดยอาจมีการแจ้งสถานที่ให้ทราบอีกครั้ง
ด้วยสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน(ประเทศไทย) ในพระราชูปถัมภ์ ฯ ได้ตระหนักถึงความจำเป็นของสถานประกอบกิจการที่จะต้องจัดให้มีการฝึกอบรมในหลักสูตรดังกล่าวตามที่กฎหมายกำหนดไว้จึงได้พัฒนาหลักสูตรเพี่อใช้ในการพัฒนาบุคลากรที่มีคุณสมบัติการเป็นวิทยากรตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อผู้ที่มีคุณสมบัติการเป็นวิทยากรดังกล่าวได้เรียนรู้อย่างเป็นระบบและสามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เข้ารับการอบรมในสถานประกอบกิจการของตนเองได้อย่างมีคุณภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์จากการเรียนรู้อย่างแท้จริง